วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

คำศัพท์ที่ควรรู้เกี่ยวกับ Internet และ Network 2


16. DSL








               DSL ( Digital Subscriber Line ) เป็นเทคโนโลยี สำหรับการนำสารสนเทศด้วย bandwidth สูงไปที่บ้านหรือธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งสูงกว่าสายโทรศัพท์แบบเดิม xDSL อ้างถึง DSL ประเภทต่าง ๆ เช่น ADSL, HDSL และ RADSL ถ้าหากที่ตั้งที่ต้องการใช้บริการที่อยู่ใกล้กับบริษัทโทรศัพท์ที่ได้บริการ DSL จะสามารถได้รับข้อมูลที่ความเร็วได้ถึง 6.1 megabits ต่อวินาที ( Mbps ) เพื่อภาพเคลื่อน เสียง และภาพ 3 มิติ โดยที่การเชื่อมต่อแบบดั้งเดิมมีความเร็วจาก 1.544 Mbps ถึง 512 Kbps ในการส่งไปที่ผู้ใช้และรับกลับ 128 Kbps สาย DSL ส่งได้ทั้งข้อมูลและเสียงแบบต่อเนื่อง ซึ่งการติดตั้ง DSL เริ่มต้นในปี 1998 และจะขยายตัวต่อไปในสหรัฐและที่อื่น ๆ Compaq, Intel, และ Microsoft กำลังทำงานร่วมกับบริษัทโทรศัพท์ ในการพัฒนามาตรฐานและการติดตั้งที่สะดวกของ ADSL เรียกว่า G.Lite นอกจากนี้ DSL ได้รับการคาดว่าจะมาแทนที่ระบบ ISDN ในหลายๆ พื้นที่ และพร้อมด้วย cable modem เพื่อให้บริการด้านมัลติมีเดียและภาพ 3 มิติ ตามที่อยู่อาศัย






17. FTP






FTP คืออะไร แล้วจะใช้งานอย่างไร

               FTP เป็นโปรแกรมที่ใช้สำหรับ upload/download หรือดูโครงสร้างของไฟล์และ directory ใน Server FTP (File Transfer Protocol) เป็นมาตรฐานในการถ่ายโอนไฟล์ และเป็นส่วนหนึ่งของชุดโปรโตคอล TCP/IP มีประโยชน์มากสำหรับการรับส่งไฟล์ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เป็นเครื่องลูก (FTP Client) กับเครื่องที่เป็นเครื่องให้บริการ (FTP Server) โดยเครื่องFTP Client อาจจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันทั่วไป ส่วนเครื่อง FTP Server ก็อาจจะเป็นเครื่อง PC ธรรมดาจนถึงเครื่องที่มีสมรรถภาพสูง


               FTP (File Transfer Protocol) เป็นระบบโอนย้ายไฟล์ข้ามระบบเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความปลอดภัยพอสมควร โดยใช้โปรโตคอล TCP เป็นกลไกขนส่งข้อมูล การเข้าใช้งานผู้ใช้จะต้องแนะนำตนเองต่อเซิร์ฟเวอร์ด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน จากนั้นจะแสดงชื่อโฟล์เดอร์และชื่อไฟล์ที่มีอยู่ออกมา ความสามารถของ FTP ทำให้ไคลเอนต์โอนย้ายไฟล์ ระหว่างไคลเอนต์ และ FTP Server ได้ รวมทั้งระหว่างเครื่องสองเครื่องที่อยู่ห่างไกลกัน






18. ISDN








                ISDN (Integrated Services Digital Network) เป็นระบบที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารที่เป็น Circuit Switched แบบ digital ซึ่งถูกใช้งานมานานนับสิบปี ระบบนี้ยอมให้มีการส่งข้อมูล ภาพวีดีโอ ไปพร้อมๆกับเสียงด้วยความเร็วสูง ถูกตั้งเป็นมาตรฐานโดย ITU-T ในการพัฒนาระบบ PSTN (Public Switched Telephone Network) ให้เป็นการให้บริการแบบ Digital ที่มีความเร็วเหนือกว่า Modem ทั่วไป ในระบบ ISDN จะแบ่งการทำงานเป็น 2 ส่วนคือส่วน Bearer channel และ Data หรือ Delta Channel โดย Bearer channels (B channels) ทำหน้าที่ให้บริการ เสียง วีดีโอ หรือการส่งถ่ายข้อมูล ในขณะที่ Data Channel (D channel) นั้นเป็นตัวจัดการสัญญาณเรียกเข้าในระบบ network และการตอบรับ กำหนดเบอร์เรียกเข้า


                การใช้บริการ ISDN แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ Basic Rate Interface (BRI) และ Primary Rate Interface (PRI) ในส่วนของ BRI นั้นจะใช้ 2 B channel คือ 64 kbps นั้นคือ 128 Kbps และใช้ 1 D channel 16 kbps รวมแล้วจะได้ bandwidth 144 kbps การบริการของ BRI นั้นเน้นที่ผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ใช่ในระดับองค์กร ส่วนของ PRI นั้นจะเน้นการใช้งานในระดับองค์กรที่ไม่ใหญ่มากนักเพราะจะมี Bandwidth ที่มากกว่า และส่งข้อมูลได้ทีละมากๆ ที่ PRI จะใช้ 23 B channel และ 1 D channel plus 64 kbps รวมแล้วจะได้ถึง 1536 kbps ในแถบ Europe นั้น PRI จะใช้ 30 B channel และ 1 D channel 64 kbps Bandwidth รวมจะได้ 1984 kbps






19. ISP






               ISP หรือ Internet Service Provider เป็นหน่วยงานที่ให้บริการเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือ ทำหน้าที่เสมือนเป็นประตูเปิดการเชื่อมต่อให้บุคคลหรือองค์กรสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ สำหรับในประเทศไทยมีหน่วยงานที่ให้บริการด้านนี้อยู่ 2 ประเภทด้วยกันคือ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์ ( Commercial ISP) และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตสำหรับสถาบันการศึกษา การวิจัยและหน่วยงานของรัฐ (non-commercial ISP ) ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตมากกว่า 20 ราย








20. PCI





               PCI (Peripheral Component Interconnect) เป็นระบบการเชื่อมภายในระหว่างไมโครโพรเซสเซอร์ กับอุปกรณ์ที่เชื่อมจาก Expansion Slot สำหรับการทำงานความเร็วสูง การใช้ PCI เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถใช้กับการ์ด PCI, ISA และ Expansion Slot แบบทั่ว ๆ ไป ในปัจจุบัน PCI ออกแบบโดย Intel ซึ่ง PCI รุ่นแรกคล้ายกับ VESA Local bus ต่อมาในรุ่น PCI 2.0 ได้เปลี่ยนจาก Local bus เป็นการออกแบบที่เป็นอิสระจากการออกแบบไมโครโพรเซสเซอร์ และมีสามารถ Synchronized กับความเร็วนาฬิกาของตัวไมโครโพรเซสเซอร์ ในระดับความเร็ว 20 - 33 MHz

               PCI ได้รับการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ ไม่เพียงเฉพาะกับ Pentium รวมถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Power PC ด้วย PCI มีขนาดการส่งครั้งละ 32 บิต ในแบบ 124-pin connection (พื้นที่เพิ่มขึ้นสำหรับ Power supply และการต่อลงทุน) และครั้งละ 64 บิตในแบบ 188-pin connection ในแบบขยาย PCI ใช้พาร์ทต่าง ๆ เพื่อส่งตำแหน่งและสัญญาณข้อมูล โดยส่งตำแหน่งใน 1 รอบนาฬิกา และข้อมูลในรอบต่อไป ข้อมูลแบบ Burst สามารถเริ่มการส่งตำแหน่งด้วยรอบนาฬิกาแรก และส่งข้อมูลเป็นอนุกรมต่อเครื่องกัน





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น